หนี้ส่วนบุคคล หนี้บัตรเครดิต ปัญหาของคนยุคปัจจุบัน

หนี้ส่วนบุคคล หนี้บัตรเครดิต ปัญหาของคนยุคปัจจุบัน

หนี้ส่วนบุคคล หนี้บัตรเครดิต ปัญหาของคนยุคปัจจุบัน

ก่อนที่จะเข้าเนื้อหาหลักเรามาทำความรู้กับหนี้ส่วนบุคคลและหนี้บัตรเครดิตกัน
หนี้ส่วนบุคคลคืออะไร: หนี้ที่เกิดกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันต่างๆ ทั้งสินค้าและบริการ ในกรณีที่เราไม่ได้ออมเงินแล้วใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยก็จะเกิดความอยากที่เกินความจำเป็น ก็จะต้องเข้าหาเงินกู้หรือบัตรเครดิตที่มีวงเงินที่สามารถจ่ายคืนไหว ไม่สูงมาก และยังไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการเข้าค้ำอีกด้วย ซึ่งทำให้ง่ายต่อการเพิ่มภาระหนี้ขึ้นไปอีก
( สินเชื่อส่วนบุคคล ระยะเวลาชำระ 6 - 36 เดือน อัตราดอกเบี้ย APR ไม่เกิน 25 % ต่อปี แบบลดต้นลดดอก )


หนี้บัตรเครดิตคืออะไร: หนี้บัตรเครดิต คือการที่เราใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้าและบริการ รวมถึงการกดเงินสด โดยที่เราจะต้องจ่ายเงินคืนตามจำนวนที่เราใช้ไปภายในบัตร ยอดค่าใช้จ่ายที่เราใช้ไปในบัตรก็จะถูกบันทึกในบัญชีที่เราทำสัญญากับสถานบันการเงินนั้นๆ โดยการที่เราจะเป็นหนี้ได้เกิดการที่เราไม่จ่ายค่าบัตรติดกันเป็นเวลานานถึง 3 - 6 เดือน โดยไม่มีการติดต่อเจรจากับทางสถานบันทางการเงิน


ข้อมูลอ้างอิงจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย การปรับเพดานอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลตั้งแต่กลางปี 2563

  • สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีเงินหมุนเวียน จาก 28% เป็น 25%
  • สินเชื่อส่วนบุคคลที่ผ่อนชำระเป็นงวด จาก 28% เป็น 25%
  • บัตรเครดิต จาก 18% เป็น 16%
  • สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ จาก 28% เป็น 24%


สิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าหากเราปล่อยละเลยหนี้ที่ก่อ

  • ทางสถาบันทางการเงินสามารถดำเนินการฟ้องร้องแก่ผู้กู้หรือผู้ใช้เงินได้ (หนี้สินจะถูกนับเป็นคดีแพ่ง โทษสูงสุดคือการล้มละลาย คดีแพ่งจะไม่มีการจำคุก)
  • กรณีที่เราปล่อยหนี้จนโดนทวงตามหนี้ โดนฟ้องแล้วแพ้คดีอาจจะถูกอายัตทรัพย์ได้เลย (เช่นเงินเดือนของพนักงานประจำที่ทำอยู่ก็จะถูกห้ามจ่ายเป็นต้น)
  • ส่งผลให้เราติดเครดิตบูโร เสียเครดิตการอนุมัติเงินที่เราจะสามารถทำการกู้ยืมเงินในอนาคตต่อได้ยากขึ้นหรือไม่สามารถทำการกู้ได้เลย
  • ค่าปรับจากการไม่จ่ายหนี้หรือค่าปรับจ่ายหนี้ล่าช้า
  • ดอกเบี้ยอาจจะมีการปรับพุ่งขึ้นสูงสุดได้ในกรณีเราผิดนัดจ่ายหนี้

 

การแก้ไขและป้องกันของหนี้ส่วนบุคคลและหนี้บัตรเครดิต

  • การแก้ไข
    • หยุดการสร้างหนี้ (หยุดใช้บัตรเครดิต, หยุดก่อหนี้เพิ่ม)
    • ให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเจรจาขอผ่อนผัน / ปรับโครงสร้างหนี้
    • ยื่นขอประนอมหนี้กับสถานบันทางการเงิน
    • จัดลำดับหนี้, รวมยอดหนี้ไว้เป็นก้อนเดียว(เพื่อง่ายและสะดวกต่อการเคลียร์หนี้ทั้งหมด)

 

  • การป้องกัน
    • การประเมินประสิทธิภาพการชำระเงินคืน (ให้ประเมินสภาพทางการเงินที่เราสามารถจ่ายคืนไหว
    • การออมเงินเก็บสำรองไว้เวลาฉุกเฉิน (เพื่อที่ลดการเพิ่มภาระหนี้)
    • จัดการแบ่งสัดส่วนเงินเดือนโดยใช้กฎ 50/30/20
      -  50% = ค่าใช้จ่ายจำเป็น
      -  30% = ซื้อของที่อยากได้
      -  20% = เก็บออมสำหรับฉุกเฉิน/ชำระหนี้
    • ในกรณีที่ต้องใช้บัตรให้ตั้งวงเงินใช้จ่ายไม่เกินที่ 30% ของวงเงินรวมบัตรเครดิต
    • ตรวจสอบใบแจ้งหนี้ทุกเดือน (เป็นการป้อมกันเวลาที่เราลืมจ่าย และตรวจสอบยอดให้ถูกต้องตามที่เราใช้จริง)


เท่านี้เราก็สามารถวางแผนควบคุมยอดหนี้รวมถึงการแก้ไขและป้องกันสถานการณ์คับขันได้ด้วย ด้วยความหวังดีจากกรีนวิงเงินด่วน **กู้เท่าที่จำเป็น ผ่อนเท่าที่ไหว**

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้